สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางฯ พร้อมเครือข่ายรัฐ-เอกชน และสถาบันการศึกษา รวมพลังจัดงาน “มหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023”เพื่อผลักดันพืชยางพาราให้เป็นเป้าหมายคลัสเตอร์ที่ 6 ในแผนฯEEC พร้อมชูให้ยางพาราเป็นพืชวาระแห่งชาติของประเทศไทยพร้อมก้าวเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางยางพารา ( Hub) ในเวทีการค้าโลก

สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางฯ พร้อมเครือข่ายรัฐ-เอกชน และสถาบันการศึกษา รวมพลังจัดงาน “มหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023”เพื่อผลักดันพืชยางพาราให้เป็นเป้าหมายคลัสเตอร์ที่ 6 ในแผนฯEEC พร้อมชูให้ยางพาราเป็นพืชวาระแห่งชาติของประเทศไทยพร้อมก้าวเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางยางพารา ( Hub) ในเวทีการค้าโลก
www.Thainewsvision.com
      สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทยสมาคมนักวิชาการยางและถุงมือยาง และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกันจัดงาน “มหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023”เพื่อผลักดันพืชยางพาราให้เป็นเป้าหมายคลัสเตอร์ที่ 6 ตามแผนปฏิบัติการพัฒนาการเกษตรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พ.ศ. 2566 – 2570 ปี พ.ศ.2566รวมทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้เกี่ยวข้องมีความกระตือรือร้นด้านการสร้างความร่วมมือของประเทศผู้ผลิตยางพารา ทั้งเกษตรกรสวนยางพาราอุตสาหกรรมแปรรูปยางพารา และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ โดยเน้นความต้องการของผู้บริโภค การประยุกต์ และการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดสินค้าเกษตร ให้เกิดการกระจายรายได้สู่เกษตรกร ภายใต้การขับเคลื่อน “โครงการเกษตรปลอดภัยครัวไทยสู่ครัวโลก” และ “ระบบเกษตรสุขภาพรักษ์สิ่งแวดล้อม” เพื่อแก้ปัญหาภาพรวมเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยให้ยั่งยืน โดยภายในงานครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-26 ก.พ. พ.ศ. 2566 ณ ตลาดกลางยางพาราภาคตะวันออก ตำบลชุมแสง อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง โดยมี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นประธานเปิดงานในครั้งนี้
ดร. อุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวสวนยาง เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีศักยภาพทางด้านการเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านยางพาราที่มีผลผลิตยางพารามากเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นจุดได้เปรียบด้านวัตถุดิบที่จะป้อนโรงงานอุตสาหกรรมยางพารา จากข้อมูลของกองการยาง กรมวิชาการเกษตร ระบุว่า ประเทศไทยส่งออกยางพาราเป็นอันดับหนึ่งของโลกมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 และยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้เข้าประเทศ เป็นอันดับหนึ่งในทุกๆ ปี โดยในปี พ.ศ.2564 มีข้อมูลรายงานว่า “ประเทศไทยมีปริมาณการผลิตยางพารา 5,168,837 ตันส่งออกในรูปยางดิบ 4,176,529 ตัน คิดเป็นร้อยละ 80.80 ของผลผลิตยางพารา และใช้ภายในประเทศเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ 925,808 ตัน คิดเป็นร้อยละ 17.91 ของผลผลิตยางพารา โดยมีมูลค่าการส่งออกยางพาราดิบ 175,977 ล้านบาท และมูลค่าส่งออกในรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา 379,424ล้านบาท” จากข้อมูลดังกล่าวนี้ จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนจากทั่วโลกให้ความสำคัญกับการลงทุนในประเทศไทย และเร่งรัดให้มีการใช้ยางพาราภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย และสมาคมนักวิชาการยางและถุงมือยาง จึงได้ร่วมมือกัน จัดงาน “งานมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023” ขึ้น โดยได้ร่วมกับเครือข่ายสถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยางพารา ทั้งจากวิสาหกิจชุมชนและจากผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs.) เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศได้มองเห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรม SMEs ผลิตภัณฑ์ยางพารารายย่อย เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพาราให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญด้านวิจัยและพัฒนา (R & D) การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อเป็นการแก้ปัญหาจุดอ่อนในภาคอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารา และเป็นการจับคู่ธุรกิจอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารากับผู้ที่สนใจที่จะร่วมลงทุน เพื่อมุ่งเน้นที่จะใช้การตลาดนำการผลิต(Demand Pull) มุ่งเน้นการเชื่อมโยงภาคเกษตรกรรมกับภาคอุตสาหกรรมให้เป็นระบบเดียวกันเน้นการประยุกต์และพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรอุตสาหกรรม ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2565
สำหรับกิจกรรมในงาน ดังกล่าว ประกอบด้วยนิทรรศการจากหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา และร้านค้าเอกชนนอกจากนี้ ผู้ร่วมงานยังสามารถเข้ารับฟังสัมมนา / เสวนาวิชาการ รับความรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ด้านการแปรรูปผลผลิตการเกษตรสู่ภาคอุตสาหกรรมเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตามที่ตลาดโลกต้องการ และการเชื่อมโยงรองรับการพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก/ EEC ซึ่งมีความพร้อม ตามมติคณะรัฐมนตรีด้านการเกษตร เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2565 นอกจากนี้ยังมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยางพารา สินค้าอุปโภค-บริโภค และปัจจัยการผลิตทางการเกษตรและสินค้าอื่นๆ ตลอดจนเวทีการแสดงของศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียงจากค่ายต่าง ๆ มาร่วมด้วยช่วยกันภายในงาน ดังกล่าว
“การจัดงานมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023ครั้งนี้ผมขอกราบขอขอบพระคุณเอกชน ห้างร้าน ต่างๆ ทุกท่านที่ได้ “ร่วมด้วย ช่วยกัน” สนับสนุนงบประมาณจัดงานดังกล่าว ซึ่งงานครั้งนี้เกิดจากแนวความคิดของสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย สมาคมนักวิชาการยางและถุงมือยาง ร่วมกับ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ทำให้เกิดพลังสำคัญครั้งใหญ่ รวมทั้ง หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในจังหวัดระยอง และหน่วยงานภายนอกจังหวัดเข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการทางวิชาการ การแสดงมหรสพ – เวทีเพื่อให้ความบันเทิง การจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคต่าง ๆ อาทิ ตลาดนัดสะพานพุทธและอื่น ๆ สำหรับเป้าหมายสำคัญในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อผลักดันพืชยางพาราให้เป็นเป้าหมายคลัสเตอร์ที่ 6 ตามแผนปฏิบัติการพัฒนาการเกษตรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พ.ศ. 2566 – 2570 ปี พ.ศ. 2566 ซึ่งผมได้ไปยื่นหนังสือแก่ ฯพณฯพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อคราวประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) เมื่อวันที่ 1 ก.พ. พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา รวมทั้ง เป็นภาพแสดงการขับเคลื่อนการจับคู่ธุรกิจอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารากับผู้ที่สนใจในการที่จะร่วมลงทุน เพื่อมุ่งเน้นที่จะใช้การตลาดนำการผลิต (Demand Pull) การเชื่อมโยงภาคการเกษตรกับภาคอุตสาหกรรมให้เป็นระบบเดียวกันโดยเน้นการประยุกต์และพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรอุตสาหกรรม ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด เป็นครั้งแรกในงานนี้
นอกจากนี้ยังได้นำเสนอการเชื่อมโยงการนำนวัตกรรมการตรวจวัดคาร์บอนเครดิตในสวนยาง กับ บ.วารุณา ในเครือปตท. และบ. SCGC ในเครือปูนซีเมนต์ไทย พื้นที่สวนยาง จ.ระยองร่วมกับการยางแห่งประเทศไทยเพื่อผลักดันสู่การซื้อขายคาร์บอนเครดิตสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง นิทรรศการและการอบรมความรู้“เรื่องระบบเกษตรสุขภาพรักษ์สิ่งแวดล้อม”อันเป็นผลงานการวิจัยพัฒนา เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ของ ทีมนักวิจัย วิทยาลัยบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่ตอบโจทย์ กระบวนการ BCG.Model และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน /SDGs Model ตามกรอบเป้าหมายของสหประชาชาติ/ UN. ร่วมกับเครือข่ายจังหวัดระยอง และความเชื่อมโยงการขอสนับสนุนมอบทุนการศึกษาทุนแลกเปลี่ยนไทย–จีนให้กับลูกหลานเกษตรกร เป็นต้น ซึ่งผลของการจัดงานครั้งนี้ผมหวังว่าจะได้รับการตอบรับและการผลักดันจากรัฐบาลเกิดการเชื่อมโยงระหว่างภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรมนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพาราอย่างเป็นระบบ สามารถดึงนักลงทุนอุตสาหกรรม และ อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม/ SMEs. ทั้งไทยและต่างประเทศ ได้มาร่วมลงทุนอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก/ EEC. เพิ่มขึ้น สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพเสริมต่อเกษตรกรชาวสวนยาง และ พืชเศรษฐกิจชนิดต่างๆ ของจังหวัดระยอง และ ภาคตะวันออก ทั้งนี้ มุ่งหวังให้รัฐบาลเห็นความสำคัญพืชเศรษฐกิจยางพาราของประเทศไทยพร้อมทั้งผลักดันให้“ยางพาราเป็นพืชวาระแห่งชาติก้าวเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางยางพารา ( Hub) ของโลก เกิดความมั่นคงด้านอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารา อีกทั้งการผลักดัน ระบบเกษตรสุขภาพรักษ์สิ่งแวดล้อม ให้เป็นวาระประเทศไทย โดยมี เป้าหมาย (Goal) สร้างความมั่นคงทางอาหาร ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภายใต้ตัวชี้วัด (Target)อันจะส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนายางพาราและพืชเศรษฐกิจภาคตะวันออกในองค์รวมเกิดความยั่งยืนต่อไป”ดร. อุทัย สอนหลักทรัพย์ กล่าวทิ้งท้าย

Coffee Shop

ดูผลงานทั้งหมด »

Entertainment

ดูผลงานทั้งหมด »

Sport

ดูผลงานทั้งหมด »

Activity

ดูผลงานทั้งหมด »