ส.อ.ท. จับมือเครือข่ายสิ่งแวดล้อมจัด“งานแสดงสินค้าบริการและการจัดการของเสีย ”EnwastExpo2023 ภายใต้แนวคิด “ร่วมขับเคลื่อนสู่โลกที่ดีกว่า” อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็คเมืองทองธานี

ส.อ.ท. จับมือเครือข่ายสิ่งแวดล้อมจัด“งานแสดงสินค้าบริการและการจัดการของเสีย ”EnwastExpo2023 ภายใต้แนวคิด “ร่วมขับเคลื่อนสู่โลกที่ดีกว่า” อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็คเมืองทองธานี
www.Thainewsvision.com    นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานแสดงสินค้าบริการและการจัดการของเสียหรือ Environmental and Waste Management Expo 2023: EnwastExpo2023 ภายใต้แนวคิด “ร่วมขับเคลื่อนสู่โลกที่ดีกว่า” โดยมี ดร.จุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม รศ.ดร.วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เครือข่ายพันธมิตรสิ่งแวดล้อมทั้งภาครัฐและเอกชนและสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรม ณ เวทีกิจกรรม อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็คเมืองทองธานี นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่ผ่านมาว่ารัฐบาลจะส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ อาทิ การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมสีเขียว และอุตสาหกรรมความมั่นคงของประเทศ รวมทั้ง การวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศ เพื่อให้เป็นเครื่องยนต์ใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศ รวมไปถึงการพัฒนาต่อยอดเขตเศรษฐกิจพิเศษ และระเบียงเศรษฐกิจทั้ง 4 ภาค ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่และเมือง ให้เป็นไปตามผังเมืองที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน เพื่อให้เกิดการกระจายความเจริญและกิจกรรม ทางเศรษฐกิจไปสู่ภูมิภาค รัฐบาลจะไม่ละเลยเรื่องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยจะสานต่อนโยบาย Carbon Neutrality เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำของอาเซียนในด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การพัฒนาที่ยั่งยืนจะเปิดประตูบานใหญ่สู่การค้าโลก ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าการจัดงานครั้งนี้เป็นผลมาจากสถานการณ์สิ่งแวดล้อมโลกที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะขยะและกากของเสียที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี จากรายงานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) พบว่าในปี 2560 ประเทศไทยมีปริมาณขยะประมาณ 27 ล้านตันหรือประมาณ 74,998 ตัน/วัน โดยเฉพาะขยะภาคอุตสาหกรรมมีมากถึง 33 ตัน/ปี ที่เป็นอันตรายและไม่มีการกำจัดอย่างถูกวิธี ทั้งยังมีการทิ้งโดย ผิดกฎหมาย จึงควรมีวิธีการจัดการขยะอย่างถูกวิธีเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการเพิ่มจำนวน ผู้ให้บริการกำจัดขยะและนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้
“สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีนโยบายเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านการดำเนินงานของกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นกลุ่มสนับสนุนความยั่งยืนของอุตสาหกรรมไทยในภาพรวม และเราพร้อมเดินหน้านำนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ ในการกำจัดขยะ ของเสีย เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” นายเกรียงไกร กล่าว นอกจากนี้ นายเกรียงไกร ยังกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “การร่วมขับเคลื่อนสู่โลกที่ดีกว่า” ซึ่งเป็นธีมในการจัดงานครั้งนี้ว่า มีองค์ประกอบด้วยกัน 3 ส่วน ได้แก่ 1. ต้นทาง ซึ่งเป็นผู้กำเนิดมลพิษและขยะ 2. ระหว่างทาง ซึ่งจะต้องอาศัยนโยบายของภาครัฐในการเข้ามากำกับดูแลเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี อันนำไปสู่การสร้างสิ่งแวดล้อมที่สมดุลและยั่งยืน 3. ปลายทาง ซึ่งเป็นผู้ที่จะช่วยลด บำบัด กำจัดมลพิษและขยะ โดยนำเครื่องมือเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าการลงทุนและการคืนกำไรสู่สังคม
ด้าน นายธีระพล ติรวศิน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานการจัดงานกล่าวว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่กลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม ส.อ.ท. จัดงานขึ้น ภายใต้การสนับสนุนจากหน่วยงานที่กำกับดูแลสิ่งแวดล้อม อาทิ กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ รวมไปถึงภาคเอกชน ได้แก่ SCG, AMATA Facility และสมาคมวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย งานนี้ ถือเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม ส.อ.ท. ที่ได้สนับสนุนการจัดการสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกำไร รวมไปถึงการมุ่งเน้นนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการจัดการมลพิษและของเสียที่เกิดจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ภาคอุตสาหกรรม ชุมชน สังคม ไปจนถึงภาคครัวเรือน
สำหรับกิจกรรมภายในงานจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย 1.การจัดการแสดงเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการของเสีย พร้อมโชว์เทคโนโลยีนวัตกรรม รีไซเคิลต้นแบบ 2.การจัดเสวนาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น หัวข้อ “การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย” และการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “กฎหมายว่าด้วยโรงงานและกฎหมายลูกที่ออกปี 2566 สำหรับผู้ก่อกำเนินกากอุตสาหกรรม และ 3. การจับคู่ทางธุรกิจ ระหว่างผู้ผลิตและจำหน่ายเทคโนโลยี ผู้ก่อกำเนิดกากของเสียการจัดการมลพิษจากต้นทางและผู้รับการบำบัด กำจัดและรีไซเคิลกากของเสียและมลพิษประเภทต่างๆ
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมงาน EnwastExpo2023 ได้ตั้งแต่วันที่ 4-6 ตุลาคม 2566 นี้ ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็คเมืองทองธานี
#กระทรวงอุตสาหกรรม
#สภาอุตสาหกรรม

Coffee Shop

ดูผลงานทั้งหมด »

Entertainment

ดูผลงานทั้งหมด »

Sport

ดูผลงานทั้งหมด »

Activity

ดูผลงานทั้งหมด »