หจก.ราเบีย อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้นำเข้าเกลือชมพูหรือเกลือหิมาลายัน รายแรกของ ประเทศไทย มอบถุงยังชีพให้กับประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงวิกฤตโควิด-19

วิณิชชา ปิ่นทอง

คุณ อะดีบ โมฮัมหมัด และ คุณ สไลยลา มัคค์ กรรมการผู้จัดห้างหุ้นส่วนจำกัด ราเบีย อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้นำเข้าเกลือชมพูหรือเกลือหิมาลายัน เจ้าแรกของ ประเทศไทยได้ร่วมกันแจกถุงยังชีพบรรจุข้าวสาร อาหารที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือครอบครัวและผู้สูงอายุที่ไม่สามารถประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัวได้ตามปกติ ซึ่งอาศัยในบริเวณรอบพื้นที่เพื่อบรรเทาผลกระทบจากพิษCOVID-19

คุณ อะดีบ โมฮัมหมัดกล่าวว่า ทางหจก.ราเบีย อินเตอร์เนชั่นแนลมีความห่วงใยพี่น้องรอบพื้นที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและเดือดร้อนจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงได้จัดทำถุงยังชีพภายในบรรจุอาหารที่จำเป็นได้แก่ ข้าวสาร น้ำมันพืช ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อเป็นส่วนหนึ่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤติไปด้วยกัน

คุณ สไลยลา มัคค์กล่าวเพิ่มเติมว่า หจก.ราเบีย อินเตอร์เนชั่นแนล ทำธุรกิจเป็นผู้นำเข้าเกลือชมพูหรือเกลือหิมาลายัน รายแรกของ ประเทศไทย โดยสินค้าจะเป็นทั้งในส่วนบริโภค ส่วนของสปา และพลังธรรมชาติบำบัดด้วยเกลือหิมาลายัน จึงมีสินค้าหลากหลายส่วน เช่น โคมไฟหินเกลือหิมาลายัน ก้อนเกลือสำหรับทำห้องเกลือสปา ห้องเกลือบำบัด เกลือหิมาลายันหรือเกลือหิมาลัย คือเกลือที่เป็นสีชมพูโดยธรรมชาติ จากเทือกเขาหิมาลัย ที่ทั่วโลกรู้จักกันในนาม Himalayan Pink Salt การเกิดของเทือกเขาเกลือนี้คือ การที่น้ำทะเลในยุคดึกดำบรรพ์ที่สะอาดบริสุทธิ์ เกิดการเปลี่ยนของเปลือกโลกของทวีปเอเซียและ มหาสมุทรอินเดียมีการเคลื่อนตัวและยกตัวเป็นภูเขาเกลือ นั่นคือจุดสำคัญที่ทำให้น้ำทะเลที่บริสุทธิ์ได้ตกผลึกเป็นคริสตัลเกลือซึ่งมันทรงคุณค่าด้วยแร่ธาตุทางธรรมชาติและปลอดสิ่งปนเปื้อนจากน้ำทะเลในยุคปัจจุบัน เกลือนี้จึงเป็นที่ยอมรับการทั่วโลกทั้งในสายสุขภาพและอาหาร ที่สามารถปรุงแต่งเสริมรสชาติอาหารได้ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่มีตามธรรมชาติ ไม่มีกระบวนการปรุงแต่งสารเคมีใดๆ แม้แต่สารป้องกันความชื้น สารฟอกขาว มันทำให้เกิดการยอมรับกันทั่วโลกว่าเป็นเกลือที่ส่งผลลบต่อสุขภาพได้น้อยมาก เค็มแต่มีดี นั้นคือเรื่องจริง การที่เกลือนี้มีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ทำให้เวลาที่เราใช้เกลือหิมาลายันจะส่งผลต่ออันตรายต่ออวัยวะภายในร่างกายได้นอกมาก ร่างกายจะได้ใช้สารแร่ที่มีอยู่ไปได้หมด ไม่เป็นภาระให้กับตับและไต ซึ่งควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะต่อร่างกาย นั่นคือ 1 ช้อนชาต่อวัน สำหรับคนปกติ

สำหรับผู้ป่วย เบาหวาน ความดัน ทานได้ 3/4 ช้อนชา หรือ 1500 มิลลิกรัม นอกจากใช้ประกอบอาหารให้อร่อยแล้วนั้น ยังสามารถใช้ดูแลสุขภาพเบื้องต้นในการเจ็บป่วยต่างๆไปก่อนพบแพทย์ เช่น ใช้อมแก้เจ็บคอ ชงดื่มเพื่อขับเสมหะ บรรเทาอาการไมเกรนโดยชงเกลือปลายช้อนชาผสมน้ำมะนาว เบคกิ้งโซดา จิบดื่มเพื่อบรรเทาอาการได้